Friday, February 5, 2010

Subscription Television (2)

พัฒนาการของโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิก (เคเบิลทีวี)

พัฒนาการของโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิกผ่านสายเคเบิล ถือกำเนิดครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงทศวรรษที่ 1940s และ 1950s (ค.ศ. 1940-1959) โดยเกิดขึ้นหลายแห่งในระยะเวลาไล่เลี่ยกันในรัฐอาร์คันซอ (Arkansas) รัฐออเรกอน (Oregon) และรัฐเพนซิลเวเนีย (Pennsylvania) อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานหลายๆแหล่งกล่าวว่าต้นกำเนิดของเคเบิลทีวีนั้นเกิดที่รัฐเพนซิลเวเนีย จุดเริ่มต้นของเคเบิลทีวีนั้นเป็นการให้บริการแก่ประชาชนที่ไม่สามารถรับสัญญาณโทรทัศน์ระบบภาคพื้นดินหรือรับสัญญาณที่ส่งผ่านคลื่นวิทยุมาทางอากาศด้วยเสาอากาศได้นั่นเอง

ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1940s (ค.ศ. 1940-1949) รัฐเพนซิลเวเนียมีสถานีโทรทัศน์อยู่ในขณะนั้นเพียงสองถึงสามสถานี ส่วนมากจะตั้งอยู่เฉพาะในเมืองใหญ่ๆเช่นเมืองฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia) ประชาชนที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ หรืออยู่ในพื้นที่ที่ไม่สามารถรับสัญญาณได้ก็จะไม่มีโอกาสได้รับชมรายการโทรทัศน์ นายจอห์น วัลสัน (John Walson) ผู้เป็นเจ้าของร้านขายของใช้อยู่ในเมืองเล็กๆชื่อมาฮานอย (Mahanoy City) ประสบปัญหาไม่สามารถขายเครื่องรับโทรทัศน์ให้แก่ชาวบ้านในท้องถิ่นเนื่องจากในเขตนั้นไม่สามารถรับสัญญาณโทรทัศน์ได้ชัดเจน ปัญหาอยู่ที่สถานที่ตั้งของเมืองซึ่งอยู่ในหุบเขาและอยู่ห่างจากเครื่องส่งโทรทัศน์ของเมืองฟิลาเดลเฟียเป็นระยะทางเกือบ 90 ไมล์ สัญญาณโทรทัศน์จึงไม่สามารถส่งผ่านภูเขามาได้ ดังนั้นการรับสัญญาณที่ชัดเจนจึงเป็นสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับคนในเมืองเล็กๆแห่งนี้ ดังนั้น นายวัลสันจึงติดตั้งเสาอากาศโทรทัศน์ไว้บนเสาสูงๆบนยอดเขา เพื่อให้เสาสูงสามารถรับสัญญาณโทรทัศน์ได้และส่งสัญญาณต่อไปยังเสาอากาศแฝดที่ทำด้วยตะกั่วเชื่อมลงไปยังร้านของเขา เมื่อประชาชนในท้องถิ่นสามารถมองเห็นสัญญาณภาพในโทรทัศน์ได้ ก็ทำให้ยอดขายเครื่องรับโทรทัศน์ของนายวัลสันนั้นเพิ่มขึ้น แต่เขาก็ต้องรับภาระในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ไปให้ลูกค้าที่ซื้อเครื่องรับโทรทัศน์ของเขาด้วย เขาเลยปรับปรุงคุณภาพสัญญาณโดยการใช้สายโคแอ๊กซ์ (coaxial cable) และสร้างตัวขยายสัญญาณ (boosters หรือ amplifiers) ขึ้นมาเอง เพื่อนำสัญญาณเคเบิลทีวีไปยังบ้านของลูกค้าที่ซื้อเครื่องรับโทรทัศน์เหล่านั้น ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่านี่คือจุดเริ่มต้นหนึ่งของระบบเคเบิลทีวี ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1948 (พ.ศ. 2491)

ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1950s โทรทัศน์ยังนับว่าเป็นนวัตกรรม ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น คณะกรรมการสื่อสารแห่งชาติ (Federal Communication Commission : FCC) ได้สั่งให้ยุติการสร้างสถานีโทรทัศน์เป็นระยะเวลาสามปี หลังจากนั้นจึงมีการวางแผนการออกอากาศรายการโทรทัศน์ทั่วประเทศ มีผลทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนของสถานีโทรทัศน์อย่างรวดเร็ว แม้ว่าในขณะนั้น เคเบิลทีวียังไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่ร้านค้าตามเมืองต่างๆก็มีการแสดงสินค้าเครื่องรับโทรทัศน์แบบต่างๆเพื่อจำหน่ายเป็นจำนวนมาก จากเดิมที่มีการจำหน่ายเพียงเครื่องรับโทรทัศน์ ก็กลายเป็นการจำหน่ายเสาอากาศด้วย ประชาชนผู้พักอาศัยในบ้านเรือนและอพาร์ตเม้นต์ในสมัยนั้นต่างก็มีเสาอากาศอยู่บนหลังคา

มิลตัน เจอร์โรลด์ แชป (Milton Jerrold Shapp) ซึ่งต่อมาภายหลังเขาได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนีย ได้ทำการพัฒนาระบบที่ทำให้เสาอากาศหลัก (master antenna : MATV) เพียงชุดเดียว สามารถใช้ได้กับเครื่องรับโทรทัศน์หมดทุกเครื่องในอาคารเดียวกัน ความลับของ Shapp ก็คือการใช้สายโคแอ๊กซ์ (coaxial cable) และตัวขยายสัญญาณ (boosters) ซึ่งสามารถส่งสัญญาณครั้งเดียวไปยังเครื่องรับหลายๆเครื่องได้ ช่วงเวลาเดียวกันในเมืองแลนสฟอร์ด (Lansford) ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน พนักงานขายคนหนึ่งชื่อโรเบิร์ต ทาร์ลตัน (Robert Tarlton) เป็นผู้เผชิญปัญหาเช่นเดียวกับนายวัลสัน เขาได้อ่านพบระบบใหม่ของนายแชปและคิดว่า ถ้าระบบนั้นไปได้ดีในบ้านและห้างร้านต่างๆแล้ว ระบบนี้ก็น่าจะใช้ได้ในเมืองของเขาเช่นกัน รูปแบบของเคเบิลทีวีคล้ายๆในปัจจุบันได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อนายทาร์ลตันเชื่อมสัญญาณโทรทัศน์โดยใช้สายโคแอ๊กซ์และตัวขยายสัญญาณที่ผลิตขายในท้องตลาด ผู้บุกเบิกเคเบิลทีวีในยุคแรกๆนั้น นอกจากรายชื่อหลายคนดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังรวมถึงเจ้าของกิจการอย่าง บิล เดเนียล (Bill Daniel) มาร์ติน มาลาร์คีย์ (Martin Malarkey) และ แจ็ค เค้นท์ คุ้ก (Jack Kent Cooke) ภายในปี ค.ศ. 1952 เคเบิลทีวีกลายเป็นระบบโทรทัศน์ที่มีผู้เป็นสมาชิกถึง 14,000 รายทั่วประเทศ

ด้วยนวัตกรรมของนายมิลตัน แชป เคเบิลทีวีก็แพร่กระจายไปทั่วประเทศ ไปยังพื้นที่ในชนบทที่อยู่ห่างไกลจากแหล่งที่ออกอากาศในตัวเมือง เคเบิลทีวีในระยะแรกนั้นมีหน้าที่หลักในการช่วยเพิ่มการรับสัญญาณโทรทัศน์ฟรีทีวีภาคพื้นดิน ทำหน้าที่เสมือน “เสาอากาศของชุมชน” (community antenna : CATV) แต่ในเวลาไม่นานนัก ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1950s (ค.ศ. 1950-1959) ผู้ให้บริการเคเบิลทีวีก็เริ่มใช้ประโยชน์จากสัญญาณไมโครเวฟและเทคโนโลยีอื่นๆเพื่อจับสัญญาณการออกอากาศจากสถานีโทรทัศน์ที่อยู่ห่างเป็นระยะทางนับร้อยไมล์ ความสามารถในการรับสัญญาณจากสถานีที่อยู่ห่างไกลทำให้มีการเปลี่ยนจุดเน้นของธุรกิจเคเบิลทีวี จากการเป็น “เสาอากาศของชุมชน” เป็นธุรกิจที่จัดสรรทางเลือกในรายการใหม่ๆให้กับผู้ชม

ในสมัยนั้น ประเทศสหรัฐอเมริกามีโทรทัศน์ระบบฟรีทีวีอยู่สามช่อง เมื่อมีธุรกิจเคเบิลทีวีเกิดขึ้นจึงทำให้มีรายการและจำนวนช่องที่มากขึ้นนอกเหนือจากฟรีทีวี เพราะผู้ให้บริการสามารถรับรายการจากสถานีอิสระ (independent stations) ที่อยู่ห่างไกลออกไปนับร้อยไมล์ได้ และเนื่องจากเคเบิลทีวีสามรถจัดหารายการที่หลากหลายจำนวนมากให้แก่ผู้ชม เคเบิลทีวีจึงสามารถดึงดูดผู้ชมได้เป็นจำนวนมาก และเข้าครอบครองตลาดในเมืองได้อย่างรวดเร็วเพราะผู้ชมส่วนใหญ่ต้องการมีทางเลือกในการชมรายการโทรทัศน์ที่มากขึ้น

ก่อน ค.ศ. 1962 ประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้ให้บริการเคเบิลทีวีเกือบ 800 ราย มีจำนวนสมาชิกประมาณ 850,000 คน ผู้นำตลาดในช่วงนั้นได้แก่ ค็อกซ์ (Cox) เทเลพร็อมเตอร์ (Teleprompter) และเวสติ้งเฮ้าส์ (Westinghouse) ผู้ให้บริการหลายๆรายได้ขยายการให้บริการในเมืองหลายเมืองพร้อมๆกัน จึงเป็นจุดกำเนิดของสิ่งที่เรียกว่า “ผู้ให้บริการหลายระบบ” (multiple system operator : MSO)
การขยายตัวของธุรกิจเคเบิลทีวีในยุคนั้นก่อให้เกิดความไม่พอใจในหมู่นักจัดรายการระดับท้องถิ่นที่ไม่ชอบการแข่งขันกับเคเบิลทีวี จึงได้มีการร้องขอให้รัฐบาลห้ามมิให้เคเบิลทีวีรับสัญญาณโทรทัศน์จากสถานีอื่น FCC จึงตอบสนองโดยการกำหนดข้อห้ามไม่ให้เคเบิลทีวีรับสัญญาณจากสถานีโทรทัศน์ที่อยู่ห่างไกล การ “แช่เย็น” เคเบิลทีวีในยุคนั้นก่อให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจเคเบิลทีวีจนกระทั่งถึง ค.ศ. 1972 เมื่อ FCC เริ่มผ่อนคลายกฎเกณฑ์การรับสัญญาณของเคเบิลทีวี อย่างไรก็ตาม พัฒนาการของเคเบิลทีวีในยุคแรกนั้น เป็นเพียงการขยายสัญญาณฟรีทีวีไปยังบ้านเรือนที่อยู่ห่างไกลโดยใช้สายเคเบิล แต่ยังมิได้มีการจัดรายการต่างๆเพื่อให้บริการสมาชิกแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

การจัดรายการของโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิกในประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นขึ้นอย่างชัดเจนในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1972 เมื่อเซอร์วิซ อิเล็กทริค (Service Electric) พาดสายเคเบิลในเมืองวิลค์ส-บาร์ (Wilkes-Barre) รัฐเพนซิลเวเนีย เพื่อให้บริการ Home Box Office หรือ HBO ซึ่งนับว่าเป็นการให้บริการเคเบิลทีวีที่มีการบอกรับสมาชิกที่ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา HBO จึงถือว่า เมืองวิลค์ส-บาร์ เป็นแหล่งกำเนิดของรายการเคเบิลทีวีสมัยใหม่ แม้ว่า HBO จะมีผู้ชมเพียงสองสามร้อยคนในคืนแรกของการให้บริการ แต่ต่อมาก็กลับกลายเป็นบริการเคเบิลทีวีที่มีการบอกรับสมาชิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และด้วยความสำเร็จของ HBO นั่นอง การให้บริการแก่ผู้ชมด้วยรายการอื่นๆจึงตามมา
ด้วยสภาพการตลาดที่มีการแข่งขันกันอย่างสูง ผู้ชมโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิกในประเทศสหรัฐอเมริกาจึงมีโอกาสได้รับชมภาพยนตร์และรายการที่น่าสนใจและมีคุณภาพสูง ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการได้ลงทุนเป็นจำนวนเงินรวมกันกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อพัฒนาระบบบรอดแบนด์และอุปกรณ์ต่างๆเพื่อให้บริการผู้ชมแบบปฏิสัมพันธ์ ในปี พ.ศ. 2551 ประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิกผ่านสายเคเบิลจำนวน 7,832 ราย (Nielsen Focus, 2008) สร้างรายได้รวมกันกว่า 86,281 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (SNL Kagan, 2008)

No comments:

Post a Comment